Picosecond Laser หรือ Picolaser คือเลเซอร์ที่ถูกปล่อยออกมาในช่วงหลักพิโควินาที (หนึ่งในล้านล้านวินาที) ทำให้เกิด photoacoustic effect กระแทกเม็ดสีด้วยพลังงานพลาสมา ทำให้แตกตัวเป็นอนุภาคขนาดเล็กมาก และไม่เกิดความร้อนสะสมบริเวณเนื้อเยื่อข้างเคียง ทำให้มีโอกาสเกิดรอยคล้ำหรือรอยด่างหลังเลเซอร์น้อยมาก และระยะพักฟื้นน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับ Q-Switch Laser

ส่งผ่านพลังงานลงไปถึงชั้นหนังแท้ เพื่อทำลายคอลลาเจนที่เสื่อมสภาพเดิม และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินใหม่

โดยแบ่งลักษณะการยิงออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ ได้แก่

• Pico full beam

1. 1. ปล่อยพลังงานเลเซอร์เต็มหน้าตัดของพื้นที่ออกมาช่วงหลักพิโควินาที กระแทกเม็ดสีขนาดเล็กให้แตกละเอียดได้อย่างรุนแรง ทำให้เม็ดเลือดขาวของร่างกาย จัดการเก็บกินเศษซากของเม็ดสีที่ถูกทำลายได้ง่ายขึ้น

ข้อดี

• พลังงานของเลเซอร์ จะเปลี่ยนรูปแบบเป็นพลังงานพลาสม่า ซึ่งทำลายเฉพาะเม็ดสีและกันพลังงานกระจายออกสู่เนื้อเยื่อปกติ จึงทำให้ไม่มีพลังงานความร้อนส่วนเกินไปถึงเนื้อเยื่อข้างเคียง

• ลดโอกาสเกิดรอยคล้ำ รอยด่างหลังเลเซอร์ลงอย่างมาก

• Pico fractional beam

1. 1. เทคโนโลยี dual level skin stimulation โดยปล่อยพลังงานลักษณะคล้ายวงแหวน เกิดปฏิกิริยาต่อผิว 2 ลักษณะในครั้งเดียว ได้แก่

      1. การเจาะรูที่ผิวส่วนบน (cold ablation) บริเวณขอบนอก

      2. เกิดฟองอากาศขนาดเล็กที่ชั้นผิวหนังแท้ (laser-induced optical breakdown หรือ LIOB) บริเวณตรงกลาง

   2. สามารถทำลายคอลลาเจน และอิลาสตินเก่า

   3. กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจน และอิลาสตินใหม่ได้ถึง 2 ระดับ บนชั้นผิวหนังแท้

ข้อดี

• แก้ไขปัญหารูขุมขน หลุมสิว ริ้วรอยแผลเป็นบุ๋ม ได้ประสิทธิภาพมากกว่า

• ปัญหาเม็ดสี เช่น รอยหมองคล้ำ ฝ้า กระ และจุดด่างดำ
• ปัญหาผิวที่ต้องการคอลลาเจน เช่น รูขุมขน หลุมสิว ริ้วรอย
• ทำให้ผิวดูกระจ่างใสและอิ่มฟูขึ้น

ในท้องตลาดมี Picolaser หลายช่วงความยาวคลื่น โดยความยาวคลื่นที่นิยมได้แก่ 1064, 532 หรือ 755 นาโนเมตร โดยความยาวคลื่นที่ต่างกัน ทำให้การลงลึกของแสงเลเซอร์สู่ชั้นผิวต่างกัน ตัวรับพลังงานต่างกัน รวมถึงให้ผลลัพธ์ในการรักษาที่แตกต่างกันด้วย

การรักษาด้วย Picolaser แม้จะเป็นเครื่องชนิดเดียวกัน แต่การตั้งค่าพลังงานที่ต่างกัน เทคนิคหรือประสบการณ์ความชำนาญที่ต่างกัน ย่อมส่งผลถึงผลลัพธ์ของการรักษาที่แตกต่างกัน ซึ่งรวมไปถึงโอกาสการเกิดผลข้างเคียงหลังเลเซอร์ทั้งชั่วคราวและถาวรที่มากน้อยแตกต่างกันอีกด้วย

• การเตรียมตัวก่อนการรักษา: ผู้ป่วยจะต้องทำการประเมินสภาพผิวหน้าและรับคำแนะนำจากแพทย์ในการเตรียมตัวก่อนการรักษา โดยมีการทายาชา ตามบริเวณที่จะรักษา 30-40 นาที
• ขั้นตอนการรักษา: การรักษาด้วย Picolaser มักใช้เวลาประมาณ 15-30 นาที ขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่ต้องการรักษา ความละเอียด และปัญหาที่พบ
• หลังทำทันที: แพทย์จะเป็นผู้ประเมินความรุนแรงหลังทำ มีการใช้เครื่องพ่นเย็น และน้ำแข็งประคบ เพื่อช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนหรือเจ็บหลังทำ และในบางกรณี อาจมีการใช้ hydrogel mask และ growth factor ทาหลังทำเพื่อช่วยบรรเทาอาการเจ็บและทำให้แผลหลังทำหายเร็วมากยิ่งขึ้น

กรณียิงแบบมีสะเก็ดเลือด

• งดล้างหน้า 24 ชม. แรก หลังจากนั้นล้างน้ำเปล่าและสบู่อ่อนได้
• ทาครีมชุ่มชื้นสม่ำเสมอ
• เลี่ยงออกแดดประมาณ 2 สัปดาห์
• ทาครีมกันแดดได้หลังจากเลเซอร์ประมาณ 3-4 วัน เพื่อลดการระคายเคือง
• งดใช้ยาสิวหรือยากลุ่ม whitening จนกว่าสะเก็ดจะหลุดหมดหรือไม่มีอาการแสบเคืองหน้า
• สามารถแต่งหน้าได้หลังจากสะเก็ดหลุด

เพราะเราคำนึงถึงผลลัพธ์ในการรักษา ประสิทธิภาพ และผลข้างเคียงเป็นสำคัญ

• เป็นเครื่อง Picolaser ทีีมีประสิทธิภาพสูงในการรักษาเม็ดสี รอยคล้ำ รอยแดง กระตุ้นคอลลาเจน รักษาริ้วรอย ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น กระชับรูขุมขน รักษาแผลเป็นนูน และลบรอยสัก
• ผ่านการรับรองมาตรฐานทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา (USFDA) และยุโรป (CE) การันตีด้วยเทคโนโลยีการผลิตและตัวเครื่องที่นำเข้าจากประเทศอิตาลี โดยบริษัท Quanta System โดยมีพลังงานสูงสุดถึง 1.3 GW ปล่อยเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 532ม 1064 และ 694 นาโนเมตร ที่ 450 พิโควินาที และ 370 พิโควินาที
• มีหัว Handpieces มากมาย เพื่อตอบโจทย์ได้ตรงจุดมากที่สุดกับปัญหาผิว