โปรแกรมรักษาฝ้า: คืนความมั่นใจกลับมาอีกครั้ง
ฝ้า เป็นปัญหาผิวที่เกิดจากการสะสมของเม็ดสีเมลานิน (Melanin) มากเกินไปในผิวหนัง ทำให้เกิดรอยคล้ำเป็นปื้นหรือจุดที่มีสีเข้มกว่าผิวปกติ ตั้งแต่สีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงสีน้ำตาลเข้ม มักเป็นเรื้อรังและรักษาได้ยาก ฝ้าสามารถเกิดขึ้นได้จากปัจจัยเสี่ยงหลายประการ เช่น
- แสงแดด: รังสียูวี รังสีอินฟราเรด และแสง visible light จากแสงแดดสามารถกระตุ้นการผลิตเม็ดสีเมลานินมากขึ้น
- ความร้อน: หากสัมผัสความร้อนจากรังสีอินฟราเรดเป็นเวลานาน เช่น แม่ครัวที่ทำงานหน้าเตาไฟตลอดเวลา สามารถกระตุ้นให้เกิดฝ้าได้
- ฮอร์โมน: การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ในช่วงตั้งครรภ์ หรือการใช้ยาคุมกำเนิด
- พันธุกรรม: หากมีญาติสายตรงเช่น พ่อแม่ พี่น้อง มีปัญหาฝ้า ลูกมักจะมีปัญหาฝ้าด้วยเช่นกัน และมักเป็นในคนผิวเข้มมากกว่าคนผิวขาว
- การอักเสบของผิว: การอักเสบหรือบาดแผลบนผิวหนังสามารถทำให้ผิวหนังผลิตเมลานินมากขึ้นและเกิดฝ้าตามมา
- ปัจจัยอื่นๆ: การกินยาบางชนิด เช่น ยากันชักกลุ่ม Phenytoin หรือยาที่ก่อให้เกิดการไวแสง (photosensitizing drug) รวมถึงโรคบางชนิด เช่น ไทรอยด์ หรือเนื้องอกรังไข่
ฝ้ามีหลายประเภท แบ่งออกเป็น 4 ชนิด ตามความลึกของฝ้าในชั้นผิวหนัง:
- ฝ้าตื้น (Epidermal melasma): สีน้ำตาลเข้ม ขอบเขตชัดเจน
- ฝ้าลึก (Dermal melasma): สีน้ำตาลอ่อนหรืออมเทา ขอบเขตมักไม่ชัดเจน
- ฝ้าแบบผสม (Mixed type melasma): มีทั้งฝ้าลึกและตื้นร่วมกัน
- ฝ้าที่บอกตำแหน่งได้ไม่ชัดเจน (Indeterminate type): พบในผู้ที่มีสีผิวเข้มมาก จนไม่สามารถแยกสีของฝ้าได้ชัดเจน
นอกจากนี้ ยังมีฝ้าเส้นเลือด หรือ Telangiectatic melasma คือการที่เส้นเลือดฝอยในชั้นหนังแท้เพิ่มจำนวนขึ้น ทำให้เห็นเส้นเลือดฝอยแตกแขนงชัดเจนเป็นหย่อมบนผิวหน้า ซึ่งเส้นเลือดฝอยนี้จะกระตุ้นการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้เกิดฝ้าตามมา พบในผู้ที่สัมผัสแสงแดดเป็นเวลานาน หรือใช้ยาทากลุ่มสเตียรอยด์ ไฮโดรควิโนนเป็นประจำ
เนื่องจากฝ้ายังเป็นภาวะที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดและมีโอกาสกลับมาเป็นซ้ำได้ ดังนั้นการการป้องกันและหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นฝ้าจึงเป็นหัวใจหลักของการรักษา
- ค้นหาสาเหตุและหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นที่ก่อให้เกิดฝ้า เช่น การเลี่ยงสารระคายเคืองต่างๆ หรือหยุดยาบางชนิด เช่น ยาคุมกำเนิด เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงแสงแดด และป้องกันตัวเองจากแสงแดด ด้วยการเลือกครีมกันแดดให้เหมาะสม และทาครีมกันแดดสม่ำเสมอ
- ใช้ยาทาและยารับประทานรักษาฝ้า เป็นการรักษาหลัก
- วิธีอื่นๆ เช่น การลอกฝ้าด้วยกรด หรือฉีดฝ้าด้วยตัวยาที่ลดการสร้างเม็ดสี หรือกลุ่ม Laser เป็นการรักษาเสริมจากการรักษาหลัก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
คลินิกของเรามีโปรแกรมรักษาฝ้าที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกปัญหาฝ้า ไม่ว่าจะเป็นฝ้าประเภทใด ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการประเมินและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ
การรักษาฝ้าที่คลินิก จะมีวิธีรักษาแบ่งเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ
- ยาทาและยารับประทาน: ยาทาจะมีส่วนผสมของไวท์เทนนิ่ง อาทิเช่น Alpha arbutin, Kojic acid และอื่นๆ รวมถึงยารับประทาน ที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสี
- การทำหัตถการต่างๆ ด้วย โปรแกรมรักษาฝ้า (M program)
- M peel: คือทากรดบางๆบริเวณฝ้าพักหนึ่งแล้วเช็ดออก ฝ้าจะค่อยๆผลัดหลุดออกไป เหมาะกับฝ้าตื้น
- M meso: คือการใช้ตัวยาที่มีส่วนช่วยในการลดเม็ดสีและผลัดเซลล์ผิว ฉีดเข้าบริเวณฝ้า เหมาะกับฝ้าลึกและฝ้าเส้นเลือด
- M pico: การยิงเลเซอร์เพื่อให้เม็ดสีเกิดการแตกตัว ร่างกายนำไปกำจัดได้ง่ายขึ้น หรือเป็นสะเก็ดหลุดลอก เหมาะกับฝ้าทุกชนิด
- M Master: ผสมผสานทั้ง M peel, M meso และ M pico เข้าด้วยกัน เพื่อแก้ไขปัญหาทั้งฝ้าทุกชนิดได้ในครั้งเดียว