🕒 : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 11.00 - 20.00 น.

Striae

โปรแกรมรักษารอยแตกลาย: ผิวสวย เรียบเนียน คืนความมั่นใจให้กับคุณ

โปรแกรมรักษารอยแตกลาย: ผิวสวย เรียบเนียน คืนความมั่นใจให้กับคุณ

รอยแตกลาย หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า Stretch marks เป็นปัญหาผิวที่เกิดจากการขยายหรือหดตัวของผิวหนังอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้โครงสร้างคอลลาเจนและอิลาสตินในผิวหนังถูกทำลาย เกิดเป็นรอยแผลลักษณะเป็นเส้นยาวที่มีสีแตกต่างจากผิวปกติ เช่น สีแดง ม่วง หรือขาว รอยแตกลายมักพบในบริเวณหน้าท้อง ต้นขา สะโพก เอว ไหล่ หลังและบริเวณอื่นๆ ที่มีการยืดหดของผิวอย่างรวดเร็ว

รอยแตกลายมีหลายประเภท ขึ้นอยู่กับลักษณะ สี และระยะเวลาที่เกิดรอยแตกลาย ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ ดังนี้:

1. รอยแตกลายสีแดง (Striae rubra)

ลักษณะ: รอยแตกลายสีแดงหรือ Striae Rubra จะมีลักษณะเป็นเส้นยาวสีแดงหรือชมพู ซึ่งเกิดจากการที่ผิวหนังมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว 

สาเหตุ: สีแดงบ่งบอกถึงการอักเสบที่ยังคงดำเนินอยู่และหลอดเลือดที่ขยายตัวจากการอักเสบ รอยแตกลายประเภทนี้มักเกิดในระยะเริ่มต้นของการขยายหรือหดตัวของผิว เช่น การตั้งครรภ์, การเพิ่มหรือลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว, หรือการเจริญเติบโตในวัยรุ่น

  1. รอยแตกลายสีขาว (Striae alba)

ลักษณะ: รอยแตกลายสีขาวหรือ Striae alba เป็นรอยแตกลายระยะถัดจากรอยแตกลายสีแดง มีลักษณะเป็นเส้นยาวสีขาวหรือเงิน 

สาเหตุ: รอยแตกลายประเภทนี้เกิดขึ้นหลังจากที่รอยแตกลายสีแดงเริ่มจางลงและเส้นเลือดหดตัวกลับสู่ภาวะปกติ แต่คอลลาเจนและอิลาสตินที่สร้างได้ปริมาณไม่เพียงพอต่อการสร้างความแข็งแรงให้กับรอยแตก ทำให้ชั้นหนังแท้บางลง ฟื้นฟูไม่เต็มที่ เห็นเป็นรอยขาว

เป็นรอยแตกลายที่มีสาเหตุจำเพาะ ซึ่งพบได้จากหลายกรณี ดังนี้

  • รอยแตกลายจากการตั้งครรภ์ (Striae gravidarum)

ลักษณะ: รอยแตกลายจากการตั้งครรภ์มักมีลักษณะเป็นเส้นยาวสีแดงหรือสีขาวที่ปรากฏบนหน้าท้อง, หน้าอก, สะโพก, หรือขา โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสามของการตั้งครรภ์หรือหลังคลอดบุตร

สาเหตุ: เกิดจากการขยายตัวของผิวหนังอย่างรวดเร็วเนื่องจากการเติบโตของทารกในครรภ์ และการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในช่วงตั้งครรภ์

  • รอยแตกลายจากการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนัก (Striae adiposae)

ลักษณะ: รอยแตกลายประเภทนี้มักปรากฏเป็นเส้นยาวสีแดงหรือขาวที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักอย่างรวดเร็ว เช่น การเพิ่มหรือลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว

สาเหตุ: เกิดจากการขยายตัวหรือหดตัวของผิวหนังอย่างรวดเร็วเมื่อมีการเพิ่มหรือลดน้ำหนักมากๆ ในระยะเวลาสั้น 

  • รอยแตกลายจากการเติบโตในวัยรุ่น (Striae distensae)

ลักษณะ: รอยแตกลายที่เกิดจากการเติบโตในวัยรุ่นมักปรากฏเป็นเส้นยาวสีแดงหรือขาวที่บริเวณขา, สะโพก, หน้าอก หรือบริเวณที่มีการขยายตัวของร่างกาย

สาเหตุ: เกิดจากการยืดตัวอย่างรวดเร็วในช่วงวัยรุ่น ทำให้ผิวหนังขยายตัวตามไม่ทัน

  • รอยแตกลายจากการใช้สเตียรอยด์ (Striae atrophicae)

ลักษณะ: รอยแตกลายจากการใช้สเตียรอยด์มักปรากฏเป็นเส้นยาวสีแดงหรือขาวที่ผิวหนัง ซึ่งเกิดจากการที่ผิวหนังบางและสูญเสียความยืดหยุ่นเนื่องจากการใช้สเตียรอยด์เป็นเวลานาน

สาเหตุ: เกิดจากการใช้ครีม ยาหรือฮอร์โมนที่มีส่วนผสมของสเตียรอยด์เป็นเวลานาน 

  • รอยแตกลายจากการยืดเหยียดของผิวหนัง (Striae elongatae)

ลักษณะ: รอยแตกลายจากการยืดเหยียดของผิวหนังมีลักษณะเป็นเส้นยาวสีแดงหรือขาวที่เกิดจากการยืดเหยียดของผิวหนังอย่างรวดเร็ว เช่น การเจริญเติบโตหรือการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย

สาเหตุ: เกิดจากการยืดเหยียดของผิวหนังอย่างรวดเร็ว เช่น การเจริญเติบโตในวัยรุ่น หรือการออกกำลังกายที่ทำให้กล้ามเนื้อขยายตัว

หลังการรักษารอยแตกลาย การดูแลผิวเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้มีประสิทธิภาพการรักษาสูงสุดและเกิดผลข้างเคียงของการรักษาน้อยที่สุด ทีมแพทย์จะแนะนำขั้นตอนการดูแลผิวหลังรักษาอย่างละเอียดและเป็นขั้นตอน ประกอบด้วยการใช้ครีมบำรุงผิวที่ออกแบบเพื่อการทำหัตถการโดยเฉพาะ การหลีกเลี่ยงแสงแดดและการเสียดสีบริเวณแผลหลังทำการรักษา เป็นต้น นอกจากนี้ แพทย์ผู้รักษาจะมีการติดตามผลการรักษาอย่างใกล้ด้วยตนเอง

โปรแกรมรักษารอยแตกลายที่ 22 square clinic

“Stretch Away” เป็นโปรแกรมรักษารอยแตกลายที่มีประสิทธิภาพสูงของทางคลินิก ประกอบด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่หลากหลาย ช่วยลดเลือนรอยแตกลายและทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น มีประสิทธิภาพการรักษาสูงสุดถึง 80% เมื่อรักษาครบ 4 ครั้ง ห่างกันแต่ละครั้ง ครั้งละ 1-1.5 เดือน โดยผลการรักษาขึ้นกับการตอบสนองเป็นรายบุคคล ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการประเมินสภาพผิวและเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ

สอบถามโปรโมชั่นประจำเดือน

รีวิวจากลูกค้าผู้ใช้บริการรักษารอยแตกลาย

Scroll to Top