🕒 : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 11.00 - 20.00 น.

Acne Scar

โปรแกรมรักษาหลุมสิว: คืนความเรียบเนียนให้ผิวของคุณ

รีวิวจากลูกค้าผู้ใช้บริการ Acne Scar

✔ รักษาหลุมสิวทุกรูปแบบ ✔ หลุมแอ่ง หลุมกล่อง หลุมจิก
✔ ผสมผสานการรักษาหลากหลายเทคนิค

โปรแกรมรักษาหลุมสิว: คืนความเรียบเนียนให้ผิวของคุณ

หลุมสิวเป็นปัญหาเรื้อรัง ที่ไม่ว่าใครที่เป็นสิวก็มีโอกาสพบเจอได้ทุกเพศ ทุกวัย เพราะจากการศึกษาล่าสุดที่ผ่านมาพบว่า ไม่ว่าจะเป็นสิวประเภทใด สิวอุดตันหรือสิวอักเสบ หลังสิวหายแล้ว ผิวหนังบริเวณดังกล่าวสามารถถูกกระต้นให้เกิดแผลเป็นหลุมสิวได้ ซึ่งส่งผลทำให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียนและไม่สวยงาม แต่ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขให้ดีขึ้นได้ ด้วยโปรแกรมรักษาหลุมสิวของเรา ที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้คุณกลับมามีผิวหน้าที่เรียบเนียนและคืนความมั่นใจให้คุณได้อีกครั้ง

หลุมสิว เป็นรอยแผลเป็นลึกที่เกิดขึ้นบนผิวหนังจากการที่สิวอักเสบทำลายชั้นผิวลึกลงไปและทำให้ผิวหนังฟื้นตัวไม่สมบูรณ์ หลุมสิวเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น

  • การบีบหรือแกะสิว: การบีบหรือแกะสิวด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้องสามารถทำให้ผิวหนังเสียหายและเกิดเป็นหลุมสิวได้
  • การติดเชื้อ: สิวที่ติดเชื้อและไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องสามารถทำให้เกิดการอักเสบและทำลายโครงสร้างผิวหนัง
  • การรักษาสิวที่ไม่ถูกวิธี: การใช้ผลิตภัณฑ์หรือการรักษาสิวที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดการอักเสบที่ลึกลงไปในผิวหนังและเกิดเป็นหลุมสิว

แต่ในปัจจุบันพบว่า ไม่ว่าจะเป็นสิวประเภทใด การอักเสบที่เกิดขึ้นแม้เพียงเล็กน้อย ประกอบกับลักษณะโครงสร้างผิวของแต่ละคนที่แตกต่างกันนั้น มีโอกาสทำให้เกิดการสมานแผลที่ไม่ปกติและก่อให้เกิดหลุมสิวได้ทั้งสิ้น

หลุมสิวมีหลายประเภท โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภทที่พบได้บ่อย ซึ่งมีลักษณะและวิธีการรักษาที่แตกต่างกัน:

  1. หลุมสิวแบบจิกหรือ Ice Pick
    ลักษณะ: หลุมสิวแบบนี้มีลักษณะเป็นหลุมลึกและแคบ มักจะเกิดจากสิวหัวช้างหรือสิวอักเสบรุนแรง
  2. หลุมสิวแบบกล่องหรือ Boxcar
    ลักษณะ: เป็นหลุมกว้างและตื้น มีขอบที่ชัดเจน มักเกิดจากการติดเชื้อสิวที่ทำลายชั้นผิวบริเวณกว้าง
  3. หลุมสิวแบบแอ่งหรือ Rolling
    ลักษณะ: เป็นหลุมสิวที่มีขอบไม่ชัดเจนและเป็นคลื่นคล้ายกับการกระเพื่อมของผิวหนัง มักเกิดจากการสูญเสียคอลลาเจนและการดึงของพังผืดใต้ผิวหนัง
หลุมสิวเป็นภาวะเรื้อรังที่ยากต่อการรักษาให้หายขาด การรักษาจะเป็นเพียงการช่วยให้หลุมตื้นขึ้น และเนียนขึ้น ทำให้พื้นผิวไม่ขรุขระ ซึ่งหากหลุมสิวเป็นมานาน การรักษาก็จะใช้เวลาและความยากที่เพิ่มมากขึ้นด้วย โดยปกติแล้วการรักษาหลุมสิวจะทำให้ผิวกลับมาดีขึ้นได้เต็มที่ไม่เกิน 60-80% เท่านั้น

ที่ 22 Square Clinic เราดูแลด้วยแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญ จึงมีโปรแกรมรักษาหลุมสิวที่ออกแบบมาแตกต่างกันไป เพื่อตอบโจทย์หลุมสิวแต่ละประเภท ขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นผู้ประเมินว่าเหมาะสมกับการรักษาด้วยวิธีไหน โดยจะมี 5 วิธีหลัก ดังต่อไปนี้

  1. Picolistic คือการใช้ Picolaser ยิงแบบไม่จำกัดโหมดและชอต เน้นโหมดยิงกระตุ้นคอลลาเจนเป็นหลัก เหมาะกับหลุมสิวแบบแอ่งหรือขอบตัด
  2. RCROSS คือการแต้มกรดบริเวณก้นหลุมสิว เหมาะกับหลุมสิวแบบจิก
  3. Hybrid biostimulator เป็นการฉีดสารกระตุ้นคอลลาเจนและ hyaluronic acid เข้าไปใต้หลุมสิว เหมาะกับหลุมสิวแบบแอ่ง
  4. Subcision คือการตัดพังผืดหลุมสิว เพื่อลดการรั้งของก้นหลุมสิว เหมาะกับหลุมสิวแบบแอ่งหรือขอบตัด

จากหลุมสิวทั่วหน้า…สู่การเปลี่ยนแปลงที่รู้สึกได้

รีวิวเส้นทางฟื้นผิวแบบองค์รวมของ คุณบาส – Influencer
ที่หลายคนรู้จัก ที่ 22 Square Clinic

“ผมเป็นคนที่เคย แอนตี้ การดูแลผิวหน้ามาก เพราะกลัวทำแล้วไม่เห็นผล เสียเงินฟรี เหนื่อยใจ… แล้วหลุมสิวผมนี่เยอะมาก ทั้งหน้าเลยครับ ยิ่งนอนดึก ทำงานดึก ผิวโทรมเข้าไปอีก จนบางทีไม่กล้าส่องกระจก ไม่กล้าออกกล้องเวลาถ่ายคลิป”

นี่คือจุดเริ่มต้นของ คุณบาส – Influencer สายครีเอทีฟ ที่ตัดสินใจดูแลตัวเองอย่างจริงจัง หลังจากได้รู้จักกับ หมอแชมป์ แพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนังที่ 22 Square Clinic และเปลี่ยนความคิดเรื่อง “การรักษาหลุมสิว” ไปอย่างสิ้นเชิง

ทำไมต้องเลือก รักษาหลุมสิว ที่ 22 Square Clinic?

  • หมอผู้เชี่ยวชาญ: คลินิกของเรามีแพทย์ที่จบทางด้านผิวหนังโดยตรงและมีประสบการณ์มากมาย โดยเฉพาะตจศัลยแพทย์ที่ศึกษาทางด้านเลเซอร์ และเครื่องมือโดยตรง ทำให้เชื่อมั่นในผลการรักษาได้อย่างแน่นอน (สามารถกด link เพื่อดูประวัติแพทย์ประจำคลินิกได้ที่นี่)
  • ไม่มีการขายคอร์สโดยเซลล์: เรามีการให้บริการโดยแพทย์ทุกขั้นตอน ไม่มีการยัดเยียดการขายคอร์ส
  • ใช้ผลิตภัณฑ์และเครื่องที่ได้มาตรฐาน อย.: ทุกผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในคลินิกของเราได้รับการรับรองมาตรฐาน จึงมั่นใจได้ในความปลอดภัยและผลลัพธ์ในการรักษา

สอบถามโปรโมชั่นประจำเดือน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Acne Scar

Q: เป็นหลุมสิว ควรทำโปรแกรมอะไรบ้าง?

A: ขึ้นกับปัญหาหลุมสิว โดย

1. หากมีหลุมสิวหลายชนิดรวมกัน แนะนำเป็นโปรแกรม Scar(e)less จะตอบโจทย์มากที่สุด แต่หากมีหลุมสิวแบบรั้งร่วม แนะนำทำ subcision ด้วย จะทำให้การรักษาเห็นผลชัดเจนมากขึ้น

2. ถ้าหลุมสิวแบบแอ่ง หรือขอบตัด ที่ไม่รุนแรงแนะนำเป็น Picolistic ซึ่งสามารถใช้ควบคู่กับการฉีดสาร Hybrid biostimulator หรือ subcision บางจุดได้

3. แต่หากเป็นหลุมสิวแบบจิก แนะนำทำ RCROSS เพราะหลุมสิวชนิดนี้ก้นหลุมจะอยู่ลึกมาก laser มักจะลงไปไม่ถึง

Q: ควรรักษาหรือทำกี่ครั้ง เพื่อจะได้เห็นผล?

A: การรักษาหลุมสิว เกือบทุกโปรแกรม มักจะแนะนำให้ทำต่อเนื่องอย่างน้อย 3-4 ครั้ง เพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน โดยแต่ละโปรแกรมจะมีความแตกต่างดังนี้

- Picolistic แนะนำทำอย่างน้อย 3 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 4-6 สัปดาห์
- RCROSS แนะนำทำประมาณ 4-6 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 2-4 สัปดาห์
- Hybrid biostimulator แนะนำฉีดประมาณ 3-4 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 4-6 สัปดาห์
- Scar(e)less program แนะนำทำประมาณ 3-4 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 4-6 สัปดาห์ พักหน้าประมาณ 5-7 วัน
- Subcision ทำ 1 ครั้ง สามารถตัดพังผืดได้ประมาณ 60-70% ซึ่งแนะนำทยอยทำเป็นครั้งๆ ไม่ต้องต่อเนื่องแบบวิธีอื่น

Q: หลังทำ ควรพักหน้านานแค่ไหน?

A: แต่ละโปรแกรม จะมีระยะเวลาพักฟื้นที่แตกต่างกัน ดังนี้

- Picolistic หลังทำหน้าจะแดง มีสะเก็ดเลือด พักหน้าประมาณ 5-7 วัน
- RCROSSหลังทำจะเป็นรอยสะเก็ดสีน้ำตาลตามจุดแต้มกรด ซึ่งจะหลุดได้เองประมาณ 5-7 วัน
- Hybrid biostimulator หลังฉีดจะมีจุดตุ่มประมาณ 1-2 วันแล้วยุบลงค่ะ อาจมีรอยเข็มและรอยช้ำบางจุดได้
- Scar(e)less program พักหน้าประมาณ 5-7 วัน
- Subcision หลังทำอาจจะบวมหรือมีรอยเขียวช้ำบริเวณที่ทำประมาณ 7-10 วัน
🇸🇬 Exclusive Invitation

Reserve Your Consultation — 50% OFF

Professional advice. Personalized service.
Limited slots available for first-time clients

🇸🇬 Exclusive Invitation

Reserve Your Consultation — 50% OFF

Professional advice. Personalized service.
Limited slots available for first-time clients