Profhilo คืออะไร? รู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับ Profhilo และเหมาะกับใคร? - 22 Square Clinic

🕒 : เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 11.00 - 20.00 น.

Profhilo คืออะไร? รู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับ Profhilo และเหมาะกับใคร?

Profhilo คืออะไร? รู้ทุกเรื่องเกี่ยวกับ Profhilo และเหมาะกับใคร?

Profhilo (โปรฟิโล): นวัตกรรมใหม่เพื่อการฟื้นฟูผิว

Profhilo (โปรฟิโล) เป็นนวัตกรรมล่าสุดในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ใช้ Hyaluronic Acid (HA) ความเข้มข้นสูงผ่านเทคโนโลยี NAHYCO® ที่ได้รับการจดสิทธิบัตร ซึ่งช่วยให้สารกระจายตัวได้ดีและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวลึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ แตกต่างจากการใช้ Filler แบบทั่วไปและสารกลุ่ม Biostimulator ที่ออกฤทธิ์ในรูปแบบอื่นๆ

บทความนี้ 22 Square Clinic จะพาคุณไปรู้จักกับ Profhilo ตั้งแต่ส่วนประกอบ หลักการทำงาน และผลลัพธ์ที่ได้ รวมถึงข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับ Profhilo ที่เหมาะสมกับปัญหาผิวแบบไหน และมีความแตกต่างจาก Sculptra หรือ Juvelook อย่างไร

คืออะไร?

Profhilo เป็นการรักษาผิวด้วยการฉีด HA ที่ไม่ใช่ Filler แบบดั้งเดิม โดยมีจุดเด่นในการเติมความชุ่มชื้นและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังช่วยปรับสภาพผิวให้ดูเต่งตึงและเรียบเนียนยิ่งขึ้น HA ที่ไม่ใช่ Filler แบบดั้งเดิม โดยมุ่งเน้นที่การเติมความชุ่มชื้นและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวผ่านกระบวนการ Skin Bioremodelling ซึ่งช่วยให้ผิวกระชับ เรียบเนียน และเต่งตึงขึ้น Profhilo มีคุณสมบัติเด่นในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน รวมถึงช่วยปรับปรุงความยืดหยุ่นของผิว โดยไม่เปลี่ยนแปลงรูปหน้า

คุณสมบัติเด่น

  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน

  • ปรับปรุงความยืดหยุ่นของผิว

  • เติมความชุ่มชื้นโดยไม่เปลี่ยนแปลงรูปหน้า

มีองค์ประกอบอะไร และทำงานอย่างไร?

Profhilo ประกอบด้วย HA ที่มีน้ำหนักโมเลกุลสูงและต่ำ เชื่อมกันด้วยเทคนิค NAHYCO ทำให้ HA มีความเข้มข้นสูงถึง 64 มก./มล. ซึ่งเป็น HA ที่สูงที่สุดในตลาด แต่ยังสามารถกระจายตัวได้ง่าย และสลายได้ตามธรรมชาติ

HA ที่มีน้ำหนักโมเลกุลสูง

  • เติมความชุ่มชื้นให้ผิวลึก

  • ช่วยให้ผิวดูอิ่มน้ำ

HA ที่มีน้ำหนักโมเลกุลต่ำ

  • กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน

  • ฟื้นฟูโครงสร้างผิวผ่านกระบวนการ skin bioremodelling

การทำงานของ Profhilo เน้นการเพิ่มความชุ่มชื้นและกระตุ้นการฟื้นฟูผิวในระยะยาว:

  1. การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน: ช่วยให้ผิวกระชับและเต่งตึง

  2. เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว: ลดปัญหาผิวแห้งที่ก่อให้เกิดริ้วรอย

  3. ปรับปรุงความยืดหยุ่นของผิว: เติมเต็มโครงสร้างผิวใหม่

  4. ลดความหย่อนคล้อยและริ้วรอย: ฟื้นฟูผิวให้อ่อนเยาว์

แตกต่างจาก HA Filler ทั่วไปอย่างไร?

HA Filler ทั่วไป

  • ใช้ HA ประเภท Cross-linked ซึ่งมีการเชื่อมพันธะโมเลกุลเพื่อให้คงตัวและเติมเต็มพื้นที่เฉพาะ เช่น ฟิลเลอร์เติมร่องแก้ม (Restylane, Juvederm)

  • ช่วยเพิ่มปริมาตรของใบหน้า แต่ไม่ได้กระตุ้นคอลลาเจนระยะยาว

Profhilo

  • ใช้ Non-Crosslinked HA ที่ผ่านการประมวลผลพิเศษ

  • กระจายตัวได้ดีและกระตุ้นคอลลาเจนในทุกชั้นผิว

  • ไม่เติมเต็มรูปหน้า แต่ช่วยปรับปรุงโครงสร้างผิวและเพิ่มความยืดหยุ่น

Profhilo คือ HA ประเภทไหน?

Profhilo อาจทำให้คนเข้าใจผิดเมื่อพูดถึงกลุ่มของ HA ที่ใช้ เพราะมันไม่ใช่ ฟิลเลอร์เพื่อเติมเต็มหรือปรับรูปหน้า แบบที่กล่าวถึงในกลุ่ม Cross-linked HA และก็ไม่ใช่ HA ที่สลายได้ง่ายและให้ความชุ่มชื้นชั่วคราวอย่าง Non-crosslinked HA

Profhilo ใช้เทคโนโลยีพิเศษในการผลิตที่ทำให้ HA สามารถคงตัวอยู่ในร่างกายได้นาน โดยไม่ใช้ Chemical Crosslinker เช่น BDDE ซึ่งทำให้ไม่เสี่ยงต่อการอุดตันของเส้นเลือด และ สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดีกว่า HA ในรูปแบบปกติ นั่นหมายความว่า Profhilo เป็น Non-crosslinked HA ที่ผ่านการประมวลผลพิเศษเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และคงอยู่ในร่างกายได้นานกว่าฮายาลูโรนิกแอซิดทั่วไป

สรุปง่ายๆ คือ Profhilo เป็น HA ที่มีเทคโนโลยีพิเศษ ทำให้มีคุณสมบัติในการกระตุ้นคอลลาเจนและสามารถคงอยู่ในร่างกายได้นาน ไม่เหมือนกับฟิลเลอร์ทั่วไปที่เติมเต็มรูปหน้า หรือ HA ที่เน้นความชุ่มชื้นชั่วคราว

ผลลัพธ์ที่คาดหวังได้จาก Profhilo

  1. ผิวกระชับและเต่งตึงขึ้น: กระตุ้นการผลิตคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวกระชับและยืดหยุ่นขึ้น
  2. ลดริ้วรอยและร่องลึก: ช่วยให้ริ้วรอยตื้นขึ้น โดยเฉพาะบริเวณร่องแก้มและใต้ตา
  3. เพิ่มความชุ่มชื้น: เติมความชุ่มชื้นให้ผิวจากภายใน ทำให้ผิวอิ่มน้ำและเปล่งปลั่ง
  4. ปรับปรุงความยืดหยุ่นของผิว: ช่วยให้ผิวแข็งแรงและทนทานต่อการหย่อนคล้อย
  5. รักษาหลุมสิว:  ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นและผิวเรียบเนียนขึ้น
  6. ผลลัพธ์ที่ยาวนาน: ผลลัพธ์จะคงอยู่ประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี
  7. ใช้ในการรักษาบางโรคผิวหนัง: เช่น ปัญหาผิวแห้งหรือริ้วรอยจากอายุ หรือแผลเป็น

เราจะเลือกใช้ เมื่อไรและอย่างไร

หลายๆท่านคงมีความสงสัยว่า แล้วเราจะเลือกใช้ เมื่อไร และอย่างไรเนื่องจากตอนนี้ก็มีสาร HA ที่เป็นกลุ่ม filler มากมายตามท้องตลาด รวมไปถึงสารกลุ่ม Biostimulator เช่น Sculptra หรือ Juvelook ที่สามารถใช้กระตุ้นคอลลาเจนได้เช่นเดียวกัน ผมจึงขออนุญาตอธิบายใน 2 กรณีครับ

กรณีที่ 1 เมื่อคุณเคยฉีด filler หรือ biostimulator มาก่อนหรือฉีดเป็นประจำ

ในกรณีนี้อาจต้องอธิบายก่อนว่า Profhilo เป็นสารกลุ่ม HA ดังนั้นสามารถตอบโจทย์เรื่องของการเติมเต็มและปรับโครงสร้างผิวได้เหมือนกับ filler ได้อย่างแน่นอน และยังมีฤทธิ์การกระตุ้นคอลลาเจนและอิลาสตินในทุกชั้นผิวด้วยกลไก bioremodelling ซึ่งคล้ายกับสาร biostimulator แต่ยังมีความแตกต่างเล็กน้อย เช่น Sculptra เน้นกระตุ้นคอลลาเจนชั้นลึก หรือ Juvelook ที่เน้นกระตุ้นคอลลาเจนชั้นตื้นเพียงอย่างเดียว ดังนั้น หากท่านใดที่เคยฉีดสารกลุ่ม filler หรือ biostimulator ดังกล่าวข้างต้นมาก่อนแล้ว อาจตอบได้ว่า Profhilo จะกลายมาเป็นตัวเสริม ทำให้คุณภาพงานผิวและโครงสร้างของผิวดียิ่งขึ้น โดยจะเติมเต็มในส่วนที่ขาดหายไปของยาทั้ง 2 ประเภทที่ได้กล่าวมาแล้วนั่นเอง

กรณีที่ 2 เมื่อคุณยังไม่เคยฉีด filler หรือ biostimulator มาก่อนเลย

กรณีนี้อาจตอบได้ว่า Profhilo เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคุณในการเริ่มต้นการฟื้นฟูและโครงสร้างผิว เนื่องจากเมื่อฉีด ตัวยาเข้าไปเราจะได้รับผลลัพธ์โดยตรงจาก HA ที่มีความเข้มข้นสูง แต่กระจายตัวและสลายง่าย ข้อดีคือทำให้ผิวยกกระชับ และอิ่มฟูทันทีหลังใช้ และเมื่อระยะเวลาผ่านไป HA โมเลกุลต่ำจะค่อยๆกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอิลาสตินอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงปรับสภาพการทำงานของเซลล์ต่างๆในชั้นผิวให้มีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้น ดังนั้นคุณจะได้ผลลัพธ์เหมือนกับการฉีดทั้ง HA และ Biostimulator พร้อมกันในครั้งเดียว

เหมาะกับใคร?

  • สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ไม่ยืดหยุ่น ผิวหลวมแต่ไม่ขาดปริมาตร และต้องการให้ผิวดูเด็กลง ยืดหยุ่นมากขึ้น เรียบเนียนขึ้น หรืออยากลดริ้วรอยและความไม่เรียบของผิว ผิวดูโกลว์และชุ่มชื้นขึ้น โดยไม่เปลี่ยนแปลงรูปหน้า
  • สำหรับผู้ที่เคยฉีด Sculptra และพึงพอใจกับการปรับโครงสร้างผิวชั้นลึกที่ให้ความเต็มและเด้งของผิว แต่ต้องการแก้ไขผิวชั้นตื้นให้ดูเรียบเนียน ลดริ้วรอยและเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว
  • สำหรับผู้ที่ต้องการให้ผิวดูเนียนเด้ง อิ่มฟู และเรียบเนียน พร้อมทั้งมีความชุ่มชื้นตั้งแต่ชั้นผิวตื้นไปจนถึงชั้นลึก แม้เคยฉีด Juvelook มาก่อน

สำหรับผู้ที่มีปัญหาหลุมสิว Profhilo สามารถใช้ร่วมกับ เลเซอร์รักษาหลุมสิว, Juvelook เพื่อกระตุ้นการฟื้นฟูในชั้นผิวที่แตกต่างกัน โดย Juvelook มักใช้ในชั้นใต้ผิว (Subdermal) ในขณะที่ Profhilo กระตุ้นการฟื้นฟูในชั้นผิวตั้งแต่ชั้นตื้นถึงกลาง (Intradermal) ซึ่งเหมาะสำหรับการรักษาหลุมสิวโดยตรง

ฉีดบริเวณไหนได้บ้าง?

  • ใบหน้า
  • หน้าผากและขมับ
  • รอบคอ
  • หลุมสิว
  • ส่วนที่หย่อนคล้อยและขาดความชุ่มชื้นตามบริเวณต่างๆ

มีวิธีการฉีดอย่างไร ต้องฉีดกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?

มีวิธีการฉีดที่หลากหลาย และเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่กลัวเข็ม เพราะสามารถฉีดเพียง 5 จุดต่อข้าง เท่านั้น โดยยาจะกระจายตัวไปทั่วใบหน้าเอง ทำให้รู้สึกเจ็บน้อยมาก นอกจากนี้ยังสามารถฉีดเสริมเฉพาะจุดในชั้นผิวที่ต้องการได้ ขึ้นอยู่กับการวิเคราะห์ของแพทย์

การฉีดใช้ปริมาณ 1-2 syringes ต่อครั้ง (1 syringe = 2 cc) และควรฉีด 2 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 1 เดือน เพื่อกระตุ้นคอลลาเจนให้มากขึ้นและต่อเนื่อง

Protocol ในการฉีด

  • ฉีดแบบมาตรฐานทั่วไป (Standard) ครั้งละ 1 หลอด (2 cc / หลอด) 
  • ฉีด 2 ครั้งห่างกัน 1 เดือน รวมใช้ 2 หลอด
  • หากปัญหาเยอะ หรือในเคสหลุมสิว สามารถกระตุ้นครั้งที่ 3 หรือเพิ่มจำนวนเป็น 2 ครั้งต่อหลอดเพื่อการย้ำปัญหาเฉพาะจุดได้

ฉีดนานเท่าไหร่ถึงเห็นผล

โดยปกติจะเริ่มเห็นผลหลังจากการรักษาประมาณ 1 เดือน และผลลัพธ์จะชัดเจนขึ้นหลังจาก 2 เดือน ผลของการกระตุ้นคอลลาเจนและการฟื้นฟูผิวจะคงอยู่ประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของปัญหาผิวและการตอบสนองของแต่ละบุคคล ส่วนการรักษาหลุมสิวจะให้ผลลัพธ์ถาวร แต่หากต้องการรักษาผลลัพธ์ไว้ สามารถรับการฉีด เพื่อกระตุ้นผิวได้ทุก 6 เดือน

ตัวอย่างผลลัพธ์การฉีด ก่อนทำและหลังทำ

ผลข้างเคียงของ Profhilo

เนื่องจากตัวยาเป็นยาที่มีผลข้างเคียงต่ำ และไม่รุนแรง จากการศึกษารวบรวมคนไข้ที่ผ่านมาเกือบ 40,000 กว่าราย ยังไม่พบผลข้างเคียงรุนแรงทางเส้นเลือด ที่ทำให้เส้นเลือดอุดตัน เนื้อตายหรือตาบอด เนื่องจากตัวยากระจายตัวได้ดีและสลายง่ายจึงลดโอกาสการอุดตันได้สูง ส่วนผลข้างเคียงอื่นๆ ที่พบได้หลังจากที่ฉีด อาจมีรอยเข็ม ตุ่มยา หรือรอยช้ำได้เล็กน้อย ซึ่งสามารถหายได้เองภายใน 5-7 วัน และในระหว่างนั้นก็สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ไม่จำเป็นต้องพักฟื้นแต่อย่างใด

ทำไมต้องฉีด Profhilo ที่ 22 Square Clinic

เพราะผลลัพธ์…บอกเทคนิค

ความเชี่ยวชาญ

  • ทีมแพทย์ผิวหนังเฉพาะทางที่สามารถวิเคราะห์ปัญหาได้อย่างแม่นยำ

  • การประเมินปัญหาอย่างองค์รวม เพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมที่สุด

เทคโนโลยีทันสมัย

  • มีเครื่องมือที่สามารถเสริมการรักษา เช่น Thermage FLX, Ultraformer III, และ Picolaser

  • สามารถปรับแต่งการรักษาให้เหมาะกับปัญหาเฉพาะบุคคล เช่น การรักษาหลุมสิวหรือการยกกระชับผิว

ผลลัพธ์ที่มั่นใจได้

  • เทคนิคการฉีดที่ออกแบบมาเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด

  • การดูแลหลังการฉีดที่ครบวงจร

สรุป

Profhilo เป็นนวัตกรรมใหม่ในการกระตุ้นคอลลาเจนที่พัฒนาโดยใช้ Hyaluronic acid ความเข้มข้นสูง พร้อมเทคโนโลยี NAHYCO ที่ได้รับการจดสิทธิบัตร ซึ่งช่วยให้สารสามารถกระจายตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวได้อย่างดีเยี่ยม

จุดเด่นของ  คือ ความสามารถในการกระตุ้นคอลลาเจนในทุกชั้นของผิว ทั้งชั้นผิวตื้นและชั้นลึก แตกต่างจาก Sculptra ที่ทำงานเฉพาะในชั้นลึก จึงช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น เพิ่มความยืดหยุ่นและความชุ่มชื้นได้ดีกว่า

เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อย ริ้วรอย หรือความไม่ยืดหยุ่นของผิว รวมถึงหลุมสิว โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการปรับปรุงสภาพผิวโดยไม่เปลี่ยนแปลงรูปหน้า หรือผู้ที่ต้องการเสริมผลลัพธ์จากการรักษาด้วย Sculptra หรือ Juvelook

การรักษาเป็นการฉีด  2 ครั้ง ห่างกัน 1 เดือน โดยขั้นตอนไม่เจ็บมากและไม่ต้องพักฟื้น ผลลัพธ์เริ่มเห็นได้ภายใน 1-2 เดือน และจะคงอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน

 

ที่ 22 Square Clinic เรามีทีมแพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษาเพื่อให้คุณมั่นใจในสุขภาพผิวของคุณ

“We Care For You Beyond Skin Deep, ให้เราดูแลทุกจัตุรัสบนผิวคุณ”

Share:

Facebook
Twitter
LinkedIn

Related Posts

Profhilo

Profhilo คือการรักษาด้วยการฉีดสาร Hyaluronic Acid (HA)

Read More

Share:

Facebook
Twitter
LinkedIn

Table of Contents

Related Posts

Profhilo

Profhilo คือการรักษาด้วยการฉีดสาร Hyaluronic Acid (HA)

Read More
Scroll to Top